ตโต จ ราชา นิปติตฺวา ตาวเท [ตาวเทว (สฺยา.), ตเทว (ก.)], ทานํ สหตฺถา อตุลํ ททิตฺวา [อตุลญฺจ ทตฺวา (สฺยา. ก.)] สงฺเฆ;
อาโรเจสิ ปกตํ [อาโรจยี ปกติํ (สี. สฺยา.)] ตถาคตสฺส, ตสฺส จ เปตสฺส ทกฺขิณํ อาทิสิตฺถฯ
[255]
โส ปูชิโต อติวิย โสภมาโน, ปาตุรโหสิ ปุรโต ชนาธิปสฺส;
‘‘ยกฺโขหมสฺมิ ปรมิทฺธิปตฺโต, น มยฺหมตฺถิ สมา สทิสา [มยฺหมิทฺธิสมสทิสา (สี. สฺยา.)] มานุสาฯ
[256]
‘‘ปสฺสานุภาวํ อปริมิตํ มมยิทํ, ตยานุทิฏฺฐํ อตุลํ ทตฺวา สงฺเฆ;
สนฺตปฺปิโต สตตํ สทา พหูหิ, ยามิ อหํ สุขิโต มนุสฺสเทวา’’ติฯ
จูฬเสฏฺฐิเปตวตฺถุ อฏฺฐมํ นิฏฺฐิตํฯ
ภาณวารํ ปฐมํ นิฏฺฐิตํฯ
9. องฺกุรเปตวตฺถุ
[257]
‘‘ยสฺส อตฺถาย คจฺฉาม, กมฺโพชํ ธนหารกา;
อยํ กามทโท ยกฺโข, อิมํ ยกฺขํ นยามเสฯ
[258]
‘‘อิมํ ยกฺขํ คเหตฺวาน, สาธุเกน ปสยฺห วา;
ยานํ อาโรปยิตฺวาน, ขิปฺปํ คจฺฉาม ทฺวารก’’นฺติฯ
[259]
[ชา. 1.10.151; 1.14.196; 2.18.153; 2.22.10] ‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;
น ตสฺส สาขํ ภญฺเชยฺย, มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก’’ติฯ
[260]
‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;
ขนฺธมฺปิ ตสฺส ฉินฺเทยฺย, อตฺโถ เจ ตาทิโส สิยา’’ติฯ
[261]
‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;
น ตสฺส ปตฺตํ ภินฺเทยฺย [หิํเสยฺย (ก.)], มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก’’ติฯ
[262]
‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;
สมูลมฺปิ ตํ อพฺพุเห [อุพฺพเห (?)], อตฺโถ เจ ตาทิโส สิยา’’ติฯ
[263]
‘‘ยสฺเสกรตฺติมฺปิ ฆเร วเสยฺย, ยตฺถนฺนปานํ ปุริโส ลเภถ;
น ตสฺส ปาปํ มนสาปิ จินฺตเย, กตญฺญุตา สปฺปุริเสหิ วณฺณิตาฯ
[264]
‘‘ยสฺเสกรตฺติมฺปิ ฆเร วเสยฺย, อนฺเนน ปาเนน อุปฏฺฐิโต สิยา;
น ตสฺส ปาปํ มนสาปิ จินฺตเย, อทุพฺภปาณี ทหเต มิตฺตทุพฺภิํฯ
[265]
‘‘โย ปุพฺเพ กตกลฺยาโณ, ปจฺฉา ปาเปน หิํสติ;
อลฺลปาณิหโต [อทุพฺภิปาณีหโต (ก)] โปโส, น โส ภทฺรานิ ปสฺสตี’’ติฯ
[266]
‘‘นาหํ เทเวน วา มนุสฺเสน วา, อิสฺสริเยน วาหํ สุปฺปสยฺโห;
ยกฺโขหมสฺมิ ปรมิทฺธิปตฺโต, ทูรงฺคโม วณฺณพลูปปนฺโน’’ติฯ
[267]
‘‘ปาณิ เต สพฺพโส วณฺโณ, ปญฺจธาโร มธุสฺสโว;
นานารสา ปคฺฆรนฺติ, มญฺเญหํ ตํ ปุรินฺทท’’นฺติฯ
[268]
‘‘นามฺหิ เทโว น คนฺธพฺโพ, นาปิ สกฺโก ปุรินฺทโท;
เปตํ มํ องฺกุร ชานาหิ, โรรุวมฺหา [เหรุวมฺหา (สี.)] อิธาคต’’นฺติฯ
[269]
‘‘กิํสีโล กิํสมาจาโร, โรรุวสฺมิํ ปุเร ตุวํ;
เกน เต พฺรหฺมจริเยน, ปุญฺญํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌตี’’ติฯ
[270]
‘‘ตุนฺนวาโย ปุเร อาสิํ, โรรุวสฺมิํ ตทา อหํ;
สุกิจฺฉวุตฺติ กปโณ, น เม วิชฺชติ ทาตเวฯ
[271]
‘‘นิเวสนญฺจ [อาเวสนญฺจ (สี.)] เม อาสิ, อสยฺหสฺส อุปนฺติเก;
สทฺธสฺส ทานปติโน, กตปุญฺญสฺส ลชฺชิโนฯ
[272]
‘‘ตตฺถ ยาจนกา ยนฺติ, นานาโคตฺตา วนิพฺพกา;
เต จ มํ ตตฺถ ปุจฺฉนฺติ, อสยฺหสฺส นิเวสนํฯ
[273]
‘‘กตฺถ คจฺฉาม ภทฺทํ โว, กตฺถ ทานํ ปทียติ;
เตสาหํ ปุฏฺโฐ อกฺขามิ, อสยฺหสฺส นิเวสนํฯ
[274]
‘‘ปคฺคยฺห ทกฺขิณํ พาหุํ, เอตฺถ คจฺฉถ ภทฺทํ โว;
เอตฺถ ทานํ ปทียติ, อสยฺหสฺส นิเวสเนฯ
[275]
‘‘เตน ปาณิ กามทโท, เตน ปาณิ มธุสฺสโว;
เตน เม พฺรหฺมจริเยน, ปุญฺญํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌตี’’ติฯ
[276]
‘‘น กิร ตฺวํ อทา ทานํ, สกปาณีหิ กสฺสจิ;
ปรสฺส ทานํ อนุโมทมาโน, ปาณิํ ปคฺคยฺห ปาวทิฯ
[277]
‘‘เตน ปาณิ กามทโท, เตน ปาณิ มธุสฺสโว;
เตน เต พฺรหฺมจริเยน, ปุญฺญํ ปาณิมฺหิ อิชฺฌติฯ
[278]
‘‘โย โส ทานมทา ภนฺเต, ปสนฺโน สกปาณิภิ;
โส หิตฺวา มานุสํ เทหํ, กิํ นุ โส ทิสตํ คโต’’ติฯ
[279]
‘‘นาหํ ปชานามิ อสยฺหสาหิโน, องฺคีรสสฺส คติํ อาคติํ วา;
สุตญฺจ เม เวสฺสวณสฺส สนฺติเก, สกฺกสฺส สหพฺยตํ คโต อสยฺโห’’ติฯ
[280]
‘‘อลเมว กาตุํ กลฺยาณํ, ทานํ ทาตุํ ยถารหํ;
ปาณิํ กามททํ ทิสฺวา, โก ปุญฺญํ น กริสฺสติฯ
[281]
‘‘โส หิ นูน อิโต คนฺตฺวา, อนุปฺปตฺวาน ทฺวารกํ;
ทานํ ปฏฺฐปยิสฺสามิ, ยํ มมสฺส สุขาวหํฯ
[282]
‘‘ทสฺสามนฺนญฺจ ปานญฺจ, วตฺถเสนาสนานิ จ;
ปปญฺจ อุทปานญฺจ, ทุคฺเค สงฺกมนานิ จา’’ติฯ
[283]
‘‘เกน เต องฺคุลี กุณา [กุณฺฐา (สี. สฺยา.)], มุขญฺจ กุณลีกตํ [กุณฺฑลีกตํ (สี. สฺยา. ก.)];
อกฺขีนิ จ ปคฺฆรนฺติ, กิํ ปาปํ ปกตํ ตยา’’ติฯ
[284]
‘‘องฺคีรสสฺส คหปติโน, สทฺธสฺส ฆรเมสิโน;
ตสฺสาหํ ทานวิสฺสคฺเค, ทาเน อธิกโต อหุํฯ
[285]
‘‘ตตฺถ ยาจนเก ทิสฺวา, อาคเต โภชนตฺถิเก;
เอกมนฺตํ อปกฺกมฺม, อกาสิํ กุณลิํ มุขํฯ
[286]
‘‘เตน เม องฺคุลี กุณา, มุขญฺจ กุณลีกตํ;
อกฺขีนิ เม ปคฺฆรนฺติ, ตํ ปาปํ ปกตํ มยา’’ติฯ
[287]
‘‘ธมฺเมน เต กาปุริส, มุขญฺจ กุณลีกตํ;
อกฺขีนิ จ ปคฺฆรนฺติ, ยํ ตํ ปรสฺส ทานสฺส;
อกาสิ กุณลิํ มุขํฯ
[288]
‘‘กถํ หิ ทานํ ททมาโน, กเรยฺย ปรปตฺติยํ;
อนฺนํ ปานํ ขาทนียํ, วตฺถเสนาสนานิ จฯ
[289]
‘‘โส หิ นูน อิโต คนฺตฺวา, อนุปฺปตฺวาน ทฺวารกํ;
ทานํ ปฏฺฐปยิสฺสามิ, ยํ มมสฺส สุขาวหํฯ
[290]
‘‘ทสฺสามนฺนญฺจ ปานญฺจ, วตฺถเสนาสนานิ จ;
ปปญฺจ อุทปานญฺจ, ทุคฺเค สงฺกมนานิ จา’’ติฯ
[291]
ตโต หิ โส นิวตฺติตฺวา, อนุปฺปตฺวาน ทฺวารกํ;
ทานํ ปฏฺฐปยิ องฺกุโร, ยํตุมสฺส [ยํ ตํ อสฺส (สฺยา.), ยนฺตมสฺส (ก.)] สุขาวหํฯ
[292]
อทา อนฺนญฺจ ปานญฺจ, วตฺถเสนาสนานิ จ;
ปปญฺจ อุทปานญฺจ, วิปฺปสนฺเนน เจตสาฯ
[293]
‘‘โก ฉาโต โก จ ตสิโต, โก วตฺถํ ปริทหิสฺสติ;
กสฺส สนฺตานิ โยคฺคานิ, อิโต โยเชนฺตุ วาหนํฯ
[294]
‘‘โก ฉตฺติจฺฉติ คนฺธญฺจ, โก มาลํ โก อุปาหนํ;
อิติสฺสุ ตตฺถ โฆเสนฺติ, กปฺปกา สูทมาคธา [ปาฏวา (ก.)];
สทา สายญฺจ ปาโต จ, องฺกุรสฺส นิเวสเนฯ
[295]
‘‘‘สุขํ สุปติ องฺกุโร’, อิติ ชานาติ มํ ชโน;
ทุกฺขํ สุปามิ สินฺธก [สนฺทุก, สินฺธุก (ก.)], ยํ น ปสฺสามิ ยาจเกฯ
[296]
‘‘‘สุขํ สุปติ องฺกุโร’, อิติ ชานาติ มํ ชโน;
ทุกฺขํ สินฺธก สุปามิ, อปฺปเก สุ วนิพฺพเก’’ติฯ
[297]
‘‘สกฺโก เจ เต วรํ ทชฺชา, ตาวติํสานมิสฺสโร;
กิสฺส สพฺพสฺส โลกสฺส, วรมาโน วรํ วเร’’ติฯ
[298]
‘‘สกฺโก เจ เม วรํ ทชฺชา, ตาวติํสานมิสฺสโร;
กาลุฏฺฐิตสฺส เม สโต, สุริยุคฺคมนํ ปติ;
ทิพฺพา ภกฺขา ปาตุภเวยฺยุํ, สีลวนฺโต จ ยาจกาฯ
[299]
‘‘ททโต เม น ขีเยถ, ทตฺวา นานุตเปยฺยหํ;
ททํ จิตฺตํ ปสาเทยฺยํ, เอตํ สกฺกํ วรํ วเร’’ติฯ
[300]
‘‘น สพฺพวิตฺตานิ ปเร ปเวจฺเฉ, ทเทยฺย ทานญฺจ ธนญฺจ รกฺเข;
ตสฺมา หิ ทานา ธนเมว เสยฺโย, อติปฺปทาเนน กุลา น โหนฺติฯ
[301]
‘‘อทานมติทานญฺจ, นปฺปสํสนฺติ ปณฺฑิตา;
ตสฺมา หิ ทานา ธนเมว เสยฺโย, สเมน วตฺเตยฺย ส ธีรธมฺโม’’ติฯ
[302]
‘‘อโห วต เร อหเมว ทชฺชํ, สนฺโต จ มํ สปฺปุริสา ภเชยฺยุํ;
เมโฆว นินฺนานิ ปริปูรยนฺโต [ภิปูรยนฺโต (สี.), หิ ปูรยนฺโต (สฺยา.)], สนฺตปฺปเย สพฺพวนิพฺพกานํฯ
[303]
‘‘ยสฺส ยาจนเก ทิสฺวา, มุขวณฺโณ ปสีทติ;
ทตฺวา อตฺตมโน โหติ, ตํ ฆรํ วสโต สุขํฯ
[304]
‘‘ยสฺส ยาจนเก ทิสฺวา, มุขวณฺโณ ปสีทติ;
ทตฺวา อตฺตมโน โหติ, เอสา ยญฺญสฺส [ปุญฺญสฺส (สี.)] สมฺปทาฯ
[305]
[อ. นิ. 6.37] ‘‘ปุพฺเพว ทานา สุมโน, ททํ จิตฺตํ ปสาทเย;
ทตฺวา อตฺตมโน โหติ, เอสา ยญฺญสฺส [ปุญฺญสฺส (สี.)] สมฺปทา’’ติฯ
[306]
สฏฺฐิ วาหสหสฺสานิ, องฺกุรสฺส นิเวสเน;
โภชนํ ทียเต นิจฺจํ, ปุญฺญเปกฺขสฺส ชนฺตุโนฯ
[307]
ติสหสฺสานิ สูทานิ หิ [สูทานิ (สฺยา. ก.)], อามุตฺตมณิกุณฺฑลา;
องฺกุรํ อุปชีวนฺติ, ทาเน ยญฺญสฺส วาวฏา [พฺยาวฏา (สี.), ปาวฏา (สฺยา.)]ฯ
[308]
สฏฺฐิ ปุริสสหสฺสานิ, อามุตฺตมณิกุณฺฑลา;
องฺกุรสฺส มหาทาเน, กฏฺฐํ ผาเลนฺติ มาณวาฯ
[309]
โสฬสิตฺถิสหสฺสานิ, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
องฺกุรสฺส มหาทาเน, วิธา ปิณฺเฑนฺติ นาริโยฯ
[310]
โสฬสิตฺถิสหสฺสานิ, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
องฺกุรสฺส มหาทาเน, ทพฺพิคาหา อุปฏฺฐิตาฯ
[311]
พหุํ พหูนํ ปาทาสิ, จิรํ ปาทาสิ ขตฺติโย;
สกฺกจฺจญฺจ สหตฺถา จ, จิตฺตีกตฺวา ปุนปฺปุนํฯ
[312]
พหู มาเส จ ปกฺเข จ, อุตุสํวจฺฉรานิ จ;
มหาทานํ ปวตฺเตสิ, องฺกุโร ทีฆมนฺตรํฯ
[313]
เอวํ ทตฺวา ยชิตฺวา จ, องฺกุโร ทีฆมนฺตรํ;
โส หิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวติํสูปโค อหุฯ
[314]
กฏจฺฉุภิกฺขํ ทตฺวาน, อนุรุทฺธสฺส อินฺทโก;
โส หิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวติํสูปโค อหุฯ
[315]
ทสหิ ฐาเนหิ องฺกุรํ, อินฺทโก อติโรจติ;
รูเป สทฺเท รเส คนฺเธ, โผฏฺฐพฺเพ จ มโนรเมฯ
[316]
อายุนา ยสสา เจว, วณฺเณน จ สุเขน จ;
อาธิปจฺเจน องฺกุรํ, อินฺทโก อติโรจติฯ
[317]
ตาวติํเส ยทา พุทฺโธ, สิลายํ ปณฺฑุกมฺพเล;
ปาริจฺฉตฺตกมูลมฺหิ, วิหาสิ ปุริสุตฺตโมฯ
[318]
ทสสุ โลกธาตูสุ, สนฺนิปติตฺวาน เทวตา;
ปยิรุปาสนฺติ สมฺพุทฺธํ, วสนฺตํ นคมุทฺธนิฯ
[319]
น โกจิ เทโว วณฺเณน, สมฺพุทฺธํ อติโรจติ;
สพฺเพ เทเว อติกฺกมฺม [อธิคยฺห (สี.), อติคฺคยฺห (ก)], สมฺพุทฺโธว วิโรจติฯ
[320]
โยชนานิ ทส ทฺเว จ, องฺกุโรยํ ตทา อหุ;
อวิทูเรว พุทฺธสฺส [อวิทูเร สมฺพุทฺธสฺส (ก.)], อินฺทโก อติโรจติฯ
[321]
โอโลเกตฺวาน สมฺพุทฺโธ, องฺกุรญฺจาปิ อินฺทกํ;
ทกฺขิเณยฺยํ สมฺภาเวนฺโต [ปภาเวนฺโต (สี.)], อิทํ วจนมพฺรวิฯ
[322]
‘‘มหาทานํ ตยา ทินฺนํ, องฺกุร ทีฆมนฺตรํ;
อติทูเร [สุวิทูเร (ก.)] นิสินฺโนสิ, อาคจฺฉ มม สนฺติเก’’ติฯ
[323]
โจทิโต ภาวิตตฺเตน, องฺกุโร อิทมพฺรวิ;
‘‘กิํ มยฺหํ เตน ทาเนน, ทกฺขิเณยฺเยน สุญฺญตํฯ
[324]
‘‘อยํ โส อินฺทโก ยกฺโข, ทชฺชา ทานํ ปริตฺตกํ;
อติโรจติ อมฺเหหิ, จนฺโท ตารคเณ ยถา’’ติฯ
[325]
‘‘อุชฺชงฺคเล ยถา เขตฺเต, พีชํ พหุมฺปิ โรปิตํ;
น วิปุลผลํ โหติ, นปิ โตเสติ กสฺสกํฯ
[326]
‘‘ตเถว ทานํ พหุกํ, ทุสฺสีเลสุ ปติฏฺฐิตํ;
น วิปุลผลํ โหติ, นปิ โตเสติ ทายกํฯ
[327]
‘‘ยถาปิ ภทฺทเก เขตฺเต, พีชํ อปฺปมฺปิ โรปิตํ;
สมฺมา ธารํ ปเวจฺฉนฺเต, ผลํ โตเสติ กสฺสกํฯ
[328]
‘‘ตเถว สีลวนฺเตสุ, คุณวนฺเตสุ ตาทิสุ;
อปฺปกมฺปิ กตํ การํ, ปุญฺญํ โหติ มหปฺผล’’นฺติฯ
[329]
วิเจยฺย ทานํ ทาตพฺพํ, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ;
วิเจยฺย ทานํ ทตฺวาน, สคฺคํ คจฺฉนฺติ ทายกาฯ
[330]
วิเจยฺย ทานํ สุคตปฺปสตฺถํ, เย ทกฺขิเณยฺยา อิธ ชีวโลเก;
เอเตสุ ทินฺนานิ มหปฺผลานิ, พีชานิ วุตฺตานิ ยถา สุเขตฺเตติฯ
องฺกุรเปตวตฺถุ นวมํฯ
10. อุตฺตรมาตุเปติวตฺถุ
[331]
ทิวาวิหารคตํ ภิกฺขุํ, คงฺคาตีเร นิสินฺนกํ;
ตํ เปตี อุปสงฺกมฺม, ทุพฺพณฺณา ภีรุทสฺสนาฯ
[332]
เกสา จสฺสา อติทีฆา [อหู ทีฆา (ก.)], ยาวภูมาวลมฺพเร [ยาว ภูมฺยา’วลมฺพเร (?)];
เกเสหิ สา ปฏิจฺฉนฺนา, สมณํ เอตทพฺรวิฯ
[333]
‘‘ปญฺจปณฺณาสวสฺสานิ, ยโต กาลงฺกตา อหํ;
นาภิชานามิ ภุตฺตํ วา, ปีตํ วา ปน ปานิยํ;
เทหิ ตฺวํ ปานิยํ ภนฺเต, ตสิตา ปานิยาย เม’’ติฯ
[334]
‘‘อยํ สีโตทิกา คงฺคา, หิมวนฺตโต [หิมวนฺตาว (ก.)] สนฺทติ;
ปิว เอตฺโต คเหตฺวาน, กิํ มํ ยาจสิ ปานิย’’นฺติฯ
[335]
‘‘สจาหํ ภนฺเต คงฺคาย, สยํ คณฺหามิ ปานิยํ;
โลหิตํ เม ปริวตฺตติ, ตสฺมา ยาจามิ ปานิย’’นฺติฯ
[336]
‘‘กิํ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฏํ กตํ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, คงฺคา เต โหติ โลหิต’’นฺติฯ
[337]
‘‘ปุตฺโต เม อุตฺตโร นาม [ปุตฺโต เม ภนฺเต อุตฺตโร (ก.)], สทฺโธ อาสิ อุปาสโก;
โส จ มยฺหํ อกามาย, สมณานํ ปเวจฺฉติฯ
[338]
‘‘จีวรํ ปิณฺฑปาตญฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํ;
ตมหํ ปริภาสามิ, มจฺเฉเรน อุปทฺทุตาฯ
[339]
‘‘ยํ ตฺวํ มยฺหํ อกามาย, สมณานํ ปเวจฺฉสิ;
จีวรํ ปิณฺฑปาตญฺจ, ปจฺจยํ สยนาสนํฯ
[340]